
สถิติจากสำนักงานศุลกากรจีนระบุว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มูลค่าการนำเข้าและส่งออกอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนของจีนอยู่ที่ 1.22 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าอัตราการเติบโตโดยรวมของการค้าต่างประเทศของประเทศในช่วงเวลาเดียวกันถึง 4.4 จุดเปอร์เซ็นต์ จาก 1.06 ล้านล้านหยวนในปี 2561 เป็น 2.38 ล้านล้านหยวนในปี 2566 มูลค่าการนำเข้าและส่งออกอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนของจีนเพิ่มขึ้น 1.2 เท่าภายในห้าปี
อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนของประเทศกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในปี พ.ศ. 2566 จำนวนสินค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนและสินค้าไปรษณีย์ด่วนข้ามพรมแดนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของศุลกากรมีจำนวนมากกว่า 7 พันล้านชิ้น เฉลี่ยประมาณ 20 ล้านชิ้นต่อวัน เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ ศุลกากรจึงได้พัฒนาวิธีการกำกับดูแลอย่างต่อเนื่อง พัฒนาและประยุกต์ใช้ระบบการกำกับดูแลการนำเข้าและส่งออกอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน และมุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพของพิธีการศุลกากรอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ขณะเดียวกัน ได้มีการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าพิธีการศุลกากรอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนจะผ่านและบริหารจัดการได้อย่างรวดเร็ว
วิสาหกิจต่างๆ พัฒนาไปในทิศทาง "การขายทั่วโลก" และผู้บริโภคได้รับประโยชน์จาก "การซื้อทั่วโลก" ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สินค้านำเข้าจากอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สินค้าขายดี เช่น เครื่องล้างจานในครัวเรือน อุปกรณ์วิดีโอเกม อุปกรณ์สกี เบียร์ และอุปกรณ์ฟิตเนส ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในรายการสินค้านำเข้าค้าปลีกอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน โดยมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีรวม 1,474 หมายเลข
ข้อมูลของ Tianyancha แสดงให้เห็นว่า ณ ปัจจุบันมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนประมาณ 20,800 แห่งที่ดำเนินงานและดำรงอยู่ทั่วประเทศ จากมุมมองการกระจายสินค้าระดับภูมิภาค กวางตุ้งครองอันดับหนึ่งของประเทศด้วยจำนวนบริษัทมากกว่า 7,091 แห่ง รองลงมาคือมณฑลซานตง เจ้อเจียง ฝูเจี้ยน และเจียงซู ด้วยจำนวนบริษัท 2,817, 2,164, 1,496 และ 947 บริษัท ตามลำดับ นอกจากนี้ จากข้อมูลของ Tianyan Risk พบว่าจำนวนคดีความและคดีความที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนคิดเป็นเพียง 1.5% ของจำนวนบริษัททั้งหมด
เวลาโพสต์: 02 ก.ย. 2567