คาดว่าตลาดเทคโนโลยีมัลติทัชทั่วโลกจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตลอดช่วงคาดการณ์ ตามรายงานล่าสุด คาดว่าตลาดจะเติบโตที่อัตรา CAGR ประมาณ 13% ตั้งแต่ปี 2023 ถึงปี 2028

การใช้จอแสดงผลอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อป ที่เพิ่มมากขึ้น เป็นแรงผลักดันการเติบโตของตลาด โดยเทคโนโลยีมัลติทัชมีส่วนแบ่งหลักในผลิตภัณฑ์เหล่านี้
ไฮไลท์สำคัญ
การนำอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสแบบมัลติทัชมาใช้เพิ่มมากขึ้น: การเติบโตของตลาดนั้นขับเคลื่อนโดยการใช้และการนำอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสแบบมัลติทัชมาใช้เพิ่มมากขึ้น ความนิยมของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น iPad ของ Apple และศักยภาพในการเติบโตของแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ได้กระตุ้นให้ผู้ผลิตอุปกรณ์พีซีและอุปกรณ์พกพารายใหญ่เข้าสู่ตลาดแท็บเล็ต การยอมรับจอภาพหน้าจอสัมผัสที่เพิ่มขึ้นและจำนวนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความต้องการของตลาด
การแนะนำหน้าจอสัมผัสแบบมัลติทัชราคาประหยัด: ตลาดกำลังได้รับแรงกระตุ้นจากการแนะนำหน้าจอสัมผัสแบบมัลติทัชราคาประหยัดที่มีความสามารถในการรับรู้ที่ดีขึ้น หน้าจอสัมผัสเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในภาคค้าปลีกและสื่อเพื่อการมีส่วนร่วมของลูกค้าและการสร้างแบรนด์ จึงมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของตลาด
การค้าปลีกเพื่อกระตุ้นความต้องการ: อุตสาหกรรมค้าปลีกกำลังใช้จอแสดงผลแบบมัลติทัชแบบโต้ตอบเพื่อสร้างแบรนด์และกลยุทธ์การมีส่วนร่วมของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคที่พัฒนาแล้ว เช่น อเมริกาเหนือและยุโรป การติดตั้งตู้แสดงสินค้าแบบโต้ตอบและจอแสดงผลบนเดสก์ท็อปเป็นตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีมัลติทัชในตลาดเหล่านี้
ความท้าทายและผลกระทบต่อตลาด: ตลาดกำลังเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่น ต้นทุนแผงที่เพิ่มขึ้น วัตถุดิบที่มีจำกัด และความผันผวนของราคา อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตอุปกรณ์ดั้งเดิมรายใหญ่ (OEM) กำลังตั้งสาขาในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อเอาชนะความท้าทายเหล่านี้และได้รับประโยชน์จากต้นทุนแรงงานและวัตถุดิบที่ลดลง
ผลกระทบและการฟื้นตัวจาก COVID-19: การระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของจอสัมผัสและตู้จำหน่ายสินค้าแบบหยอดเหรียญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตของตลาด อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดเทคโนโลยีมัลติทัชจะเติบโตขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวและความต้องการจากอุตสาหกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้น
เวลาโพสต์: 04-11-2023